วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

DIY แว่น VR


DIY VR

อุปกรณ์พื้นฐาน

ทำเลนส์

  • ขวดพลาสติกใสเล็ก
  • กาวติด UHU

ทำแว่น VR 3มิติ

  • กระดาษลังหรือกล่องแข็ง
  • ปืนกาวหรือกาว
  • แม่เหล็ก (เป็นสวิตช์กดปุ่มเวลาใช้งาน App)

ขั้นตอนการทำ
    1.หลังจากได้วัสดุที่ต้องการครบ ก็เริ่มขั้นตอนแกะแบบ โดยผมทำการพิมพ์แบบลงในกระดาษ A4 และตัดแบบมาแปะลงบน     กระดาษแข็งด้วยกาวแท่ง เพื่อให้สะดวกต่อการแกะออกในภายหลัง                         
    2.จากนั้นก็ได้เวลาเริ่มแกะแบบด้วยคัตเตอร์ ซึ่งถือเป็นงานหนักมากสำหรับผมที่ไม่ได้จับงานประดิษฐ์อีกเลยตั้งแต่จบชั้นมัธยมปลาย
    3..เมื่อนำชิ้นส่วนทั้งหมดมาประกอบกัน ผมจึงพบว่าผมคิดผิดอย่างยิ่งที่เลือกใช้กระดาษลัง เนื่องจากความหนาของกระดาษทำให้พับยาก และต้องขยายรูที่เจาะเอาไว้เพื่อให้สามารถประกอบส่วนที่ยึดเลนส์เข้าไปได้
    4.หลังจากปรับแก้จำนวนมาก Cardboard ของผมก็พร้อมสำหรับใช้งาน ผมไม่ได้เจาะช่องสำหรับกล้องตามแบบ





ลองใช้งาน
    หลังจากทดลองใช้ และให้เพื่อนที่ทำงานตลอดจนเด็กข้างบ้านร่วมทดลองด้วย ผมพบแต่ละคนได้พบประสบการณ์ที่ดีอย่างยิ่ง ซึ่งไม่สามารถอธิบายให้ผู้อื่นเข้าใจได้ นอกจากจะให้ลองใช้เอง แต่ก็มีปัญหาเล็กน้อย

ประโยชน์การใช้งาน

    ประโยชน์ของ VR. ความเสมือนจริงจะกลายเป็นการปรากฏทางไกล

สรุป

    โดยสรุปแล้ว ผมคิดว่าเป็นของเล่นซึ่งให้ประสบการณ์ที่ดีมาก ๆ ในราคาต้นทุนที่ถูกมาก และมีโอกาสที่จะนำไปใช้ต่อยอดในเชิงธุรกิจได้ แต่ตัวแบบก็ยังมีจุดที่ต้องปรับปรุงเรื่องการยึดเลนส์ และการเลือกใช้วัสดุที่อาจจะต้องทนทานมากกว่ากระดาษลังจากร้านขายของชำทั่วไป



วันอาทิตย์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

โทรศัพท์

คืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ในการสื่อสารสองทางผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ใช้คลื่นวิทยุในการติดต่อกับเครือข่ายโทรศัพท์มือถือโดยผ่านสถานีฐาน โดยเครือข่ายของโทรศัพท์เคลื่อนที่แต่ละผู้ให้บริการจะเชื่อมต่อกับเครือข่ายของโทรศัพท์บ้านและเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ของผู้ให้บริการอื่น โทรศัพท์เคลื่อนที่ที่มีความสามารถเพิ่มขึ้นในลักษณะคอมพิวเตอร์พกพาจะถูกกล่าวถึงในชื่อโทรศัพท์อัจฉริยะ โทรศัพท์เคลื่อนที่ในปัจจุบันนอกจากความสามารถพื้นฐานของโทรศัพท์แล้ว ยังมีคุณสมบัติพื้นฐานของโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่เพิ่มขึ้นมา เช่น การส่งข้อความสั้นเอสเอ็มเอส ปฏิทิน นาฬิกาปลุก ตารางนัดหมาย เกม การใช้งานอินเทอร์เน็ต บลูทูธ อินฟราเรด กล้องถ่ายภาพ เอ็มเอ็มเอส วิทยุ เครื่องเล่นเพลง และ จีพีเอส

การใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ในปัจจุบัน
โทรศัพท์เป็นเครื่องมือสื่อสารที่ช่วยร่นระยะเวลา ระยะทางในการสื่อสารของคนยุคปัจจุบัน เป็นเทคโนโลยีที่สร้างประโยชน์ได้มากต่อการพัฒนาความก้าวหน้าในด้านต่างๆของโลก ซึ่งปัจจุบันโทรศัพท์เคลื่อนที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอย่างมาก ด้วยความบันเทิงหลากหลายที่เป็นจุดขายดึงดูดวัยรุ่นยุคปัจจุบันที่ดำเนินชีวิตอยู่กับเทคโนโลยี ทำให้เครื่องมือสื่อสารชนิดนี้มีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิต วัยรุ่นมักนำความสามารถทุกอย่างที่โทรศัพท์เคลื่อนที่ทำได้มาประยุกต์ในทางที่เสื่อมมากกว่าทางสร้างสรรค์ โทรศัพท์เคลื่อนที่มีอิทธิพลต่ออารมณ์ให้เป็นคนขาดความอดทน ใจร้อน ขาดความรอบคอบ อารมณ์รุนแรง มีอิทธิพลในการใช้เงินของวัยรุ่น เนื่องจากวัยรุ่นมีความต้องการที่จะเปลี่ยนโทรศัพท์ใหม่ให้อินเทรนด์ อยู่เสมอ มีอิทธิพลต่อการศึกษาและการพัฒนาความรู้ นอกจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ทำลายเซลล์สมองให้ด้อยพัฒนาแล้ว ยังส่งผลต่อสุขภาพและลดสมาธิ

โทรศัพท์ในประเทศไทย

"ตำนานไปรษณีย์โทรเลขสยาม" พ.ศ. 2429 ถึง พ.ศ. 2468 ได้บันทึกเรื่องราวเกี่ยวกับโทรศัพท์ในประเทศไทยไว้ว่า ประเทศไทยได้นำเอาโทรศัพท์มาใช้เป็นครั้งแรก เมื่อ พ.ศ. 2424 ตรงกับรัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ โดยกรมกลาโหม (กระทรวงกลาโหมในปัจจุบัน) ได้สั่งเข้ามาใช้งานในกิจการเพื่อความมั่นคงแห่งชาติ โดยติดตั้งที่กรมอู่ทหารเรือกรุงเทพฯ 1 เครื่อง และป้อมยามปากน้ำเจ้าพระยา จังหวัดสมุทรปราการอีก 1 เครื่อง รวม 2 เครื่อง เพื่อจะได้แจ้งข่าวเรือ เข้าออกในแม่น้ำ เจ้าพระยาให้ทางกรุงเทพฯทราบ

  • พ.ศ. 2429 กิจการโทรศัพท์ได้เจริญรุ่งเรืองขึ้น จำนวนเลขหมายและบุคลากร ก็เพิ่มมากขึ้น ยุ่งยากแก่การบริหารงาน ของกรมกลาโหม ดังนั้น กรมกลาโหม จึงได้โอนกิจการของโทรศัพท์ ให้ไปอยู่ใน การ ดูแลและดำเนินการ ของกรมไปรษณีย์ โทรเลข ต่อมากรมไปรษณีย์โทรเลขก็ได้ขยายกิจการโทรศัพท์จากภาครัฐสู่เอกชน โดยให้ ประชาชน มีโอกาสใช้โทรศัพท์ได้ ในระยะนี้เครื่องที่ใช้จะเป็น ระบบแม็กนีโต (Magneto) หรือระบบ โลคอลแบตเตอรี่ (Local Bat tery )
  • พ.ศ. 2450 กรมไปรษณีย์โทรเลขได้สั่งโทรศัพท์ ระบบคอมมอนแบตเตอรี่ (Battery) หรือ เซ็นทรัล แบตเตอรี่ (Battery) มาใช้ซึ่งสะดวกและประหยัดกว่าระบบแม็กนีโตมาก
  • พ.ศ. 2479 กรมไปรษณีย์โทรเลขได้สั่งซื้อชุมสายระบบสเต็บบายสเต็บ (Step by Step) ซึ่งเป็นระบบอัตโนมัติ สามารถหมุนเลขหมายถึงกันโดยตรง โดยไม่ต้องผ่านพนักงานต่อสาย (Operator) เหมือน โลคอลแบตเตอรี่ หรือ เซ็นทรัล แบตเตอรี่
  • พ.ศ. 2497 เนื่องจากกิจการโทรศัพท์ได้เจริญก้าวหน้ามาก ประชาชนนิยมใช้ แพร่หลายไปทั่วประเทศ กิจการใหญ่ โตขึ้นมากทำให้การบริหารงานลำบากมากขึ้น เพราะกรมไปรษณีย์โทรเลขต้องดูแลเรื่องอื่นอีกมาก ดังนั้นเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2497 จึงได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติตั้งองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยขึ้น โดยแยก กองช่างโทรศัพท์กรมไปรษณีย์โทรเลขมาตั้งเป็นองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยขึ้น มีฐานะเป็นรัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวง คมนาคมมาจนถึงปัจจุบัน องค์การโทรศัพท์หลังจากที่ได้รับการจัดตั้งขึ้นแล้ว ก็ได้รับโอนงานกิจการโทรศัพท์มาดูแล
  • พ.ศ. 2517 องค์การโทรศัพท์ก็สั่งซื้อชุมสายโทรศัพท์ระบบคอสบาร์ (Cross Bar) มาใช้งานระบบคอสบาร์ เป็นระบบอัตโนมัติเหมือนระบบสเต็บบายสเต็บแต่ทันสมัยกว่าทำงานได้เร็วกว่า มีวงจรพูดได้มากกว่า และขนาดเล็กกว่า
  • พ.ศ. 2526 องค์การโทรศัพท์ได้นำระบบชุมสาย SPC (Storage Program Control) มาใช้งาน ระบบ SPC เป็นระบบที่ควบคุมการทำงานด้วยคอมพิวเตอร์ (Computer) ทำงานได้รวดเร็วมาก ขนาดเล็ก กินไฟน้อย และยังให้ บริการ เสริมด้าน อื่น ๆ ได้อีกด้วย

ในปัจจุบันชุมสายโทรศัพท์ที่ติดตั้งใหม่ ๆ จะเป็นระบบ SPC ทั้งหมด ระบบอื่น ๆ เลิกผลิตแล้ว ประเทศไทยเรากำลัง เร่งติดตั้งโทรศัพท์เพื่อให้พอใช้กับประชาชน ดังจะเห็นจากโครงการ 3 ล้านเลขหมายในแผนพัฒนา เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 7 และโครงการอื่น ๆ ต่อไป รวมทั้งวิทยุโทรศัพท์อีกด้วย เพื่อเสริมให้ระบบสื่อสารในประเทศไทยมีประสิทธิภาพ เอื้ออำนวย ต่อการพัฒนาประเทศให้เจริญรุ่งเรืองต่อไป

Deep Learning


 Deep Learning แบบฉบับคนสามัญชน EP 1 : Neural Network History | by Mr.P L |  mmp-li | Medium

Deep Learning คืออะไร?

คำว่า Deep Learning นั้นคือศาสตร์แขนงหนึ่งของ Machine Learning ที่เลียนแบบระบบเซลล์ประสาทในสมองของมนุษย์ (Neural Network) ดังนั้นความสามารถของมัน ในอนาคตอาจจะเหนือมนุษย์ เนื่องจากสามารถเพิ่มพลังประมวลผล ได้ไม่จำกัด


Image for post


เราก็สามารถจำลองมันขึ้นมาได้ โดยมี เส้นประสาทและเซลล์ประสาท (เราเรียกว่า Node) ออกมาเป็น Artificial Neural Network (ANN)

หลายท่านอาจจะเคยได้ยินชื่อนี้มากันบ้างแล้วลองคิดภาพการทำงานของดวงตาและสมองนะครับ“เมื่อดวงตาเห็นรูปน้องหมา รูปน้องหมาถูกนำไปประมวลผล (ซึ่งประมวลอย่างไรไม่รู้) และได้คำตอบว่า นี่คือหมา”

ถ้าเราสร้าง ANN จำลองจุดนี้ จะได้ 3 ส่วน

  1. สิ่งที่ตาเห็นก็คือ input — ข้อมูลที่รับ ในที่นี้ก็คือ น้องหมาที่เห็น
  2. สิ่งที่ระบบเซลล์ประสาทในสมองประมวลผล เทียบได้กับ hidden layer —????? ซึ่งไม่รู้มันคืออะไร ทำอะไร
  3. สิ่งที่สมองตอบหลังประมวลผลว่านี่คือน้องหมา คือ output layer — ผลลัพธ์




ข้อดี – ข้อเสียของ Deep Learning

ข้อดี

ไม่จำเป็นต้องจัดโครงสร้างข้อมูล

ข้อมูลส่วนใหญ่มักบรรจุอยู่ในรูปแบบที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นข้อความ ตัวเลข รูปภาพ หรือเสียง ซึ่งไม่สามารถนำมาใช้ร่วมกันได้ 

ไม่จำเป็นต้องจัดหมวดหมู่ข้อมูล

การจัดหมวดหมู่ข้อมูลเป็นขั้นตอนที่มีต้นทุนสูงเป็นอย่างมาก ยกตัวอย่างเช่น การแยกรูปภาพระหว่าง “สุนัข” กับ “แมว” ซึ่งจำเป็นต้องบอกให้ Machine Learning รู้ว่ารูปใดคือสุนัข รูปใดคือแมว ด้วยการใช้ภาพสุนัขและภาพแมวมากกว่าพันรูปขึ้นไป 

ไม่จำเป็นต้องกำหนดการจับคู่ข้อมูลล่วงหน้า

ระบบ Machine Learning โดยทั่วไปต้องสั่งให้ระบบต้องจับคู่ข้อมูลตามที่กำหนดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ เช่น การจับคู่ค่าละติจูดและลองติจูดเพื่อให้ได้ค่าพิกัด  ส่วน Deep Learning สามารถหาความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลได้ด้วยตัวเอง ทำให้ Deep Learning สามารถหาความเชื่อมโยงระหว่างข้อมูลที่มนุษย์ไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้

ข้อเสีย

ต้องการข้อมูลจำนวนมหาศาล

เงื่อนไขสำคัญที่ทำให้ Deep Learning สามารถแก้ปัญหาได้คือการ “เรียนรู้” จากข้อมูล นอกจากนี้ ความแม่นยำของ Deep Learning ยังแปรผันตรงกับปริมาณข้อมูล ยิ่งต้องการความแม่นยำจาก  Deep Learning มาก ผู้ใช้งานจำเป็นต้องเพิ่มข้อมูลในระบบมากตามไปด้วย 

กลไกการทำงานที่ไม่สามารถอธิบายได้

การอธิบายกระบวนการของ Deep Learning ถือว่าเป็นสิ่งที่ซับซ้อนอย่างมาก เพราะหน่วยประมวลผลแต่ละหน่วยสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง จึงทำให้เหตุผลในการ “ให้คำตอบ” ของแต่ละหน่วยประมวลผลอาจแตกต่างกันอย่างโดยสิ้นเชิง และการที่ Deep Learning ประกอบไปด้วยเครือข่ายของหน่วยประมวลผลจำนวนมาก จึงเป็นการยากที่จะให้เหตุผลที่ตายตัวกับผลลัพธ์ที่ได้จาก Deep Learning 

การใช้งาน Deep Learning ที่เห็นได้จริง

- รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ (Autonomous Vehicles)

- การวินิจฉัยโรค

การแปลภาษา

- การสร้างประโยคหรือโต้ตอบกับมนุษย์

- เกม


อาชีพที่เกี่ยวข้องกับ deep learning


- Deep learning Engineer

วิศวกรเหล่านี้มีหน้าที่สร้างโปรมแกรม เลียนแบบ การทำงาของสอง มนุษย์ ด้วยความซับซ้อน ของอาชีพนี้ ทำให้พวกเขาได้รับเงินเดือน มากกว่า $ 100,000 ต่อปีในสหรัฐอเมริกา









machine learning

 



How To Approach A Machine Learning Project

Machine Learning หรือ แปลตรงๆตัวเลยว่า “การเรียนรู้ของเครื่องจักร” โดยเครื่องจักรในที่นี้หมายถึง “Program Computer” 

Machine Learning อยู่กับเรามานานแล้ว นานตั้งแต่เกิดสำหรับหลายๆคน เพราะมันเริ่มต้นตั้งแต่สมัยปี 1959 ไม่ใช่เรื่องใหม่เลยหากใครเคยดู The Imitation game เป็นเรื่องราวการถอดรหัสลับของนาซี ในสงครามโลกที่พลิกให้ฝั่งพันธมิตรเป็นฝ่ายชนะ จะเห็นเครื่อง ENIGMA ที่สร้างโดย Alan Turing บิดาแห่ง Computer Science ในปัจจุบัน 

ข้อดีของ Machine Learning

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า Machine Learning ช่วยให้มนุษย์ทำงานได้อย่างสร้างสรรค์และมีประสิทธิภาพมากขึ้น คุณเองก็สามารถมอบหมายงานที่ค่อนข้างซับซ้อนหรือซ้ำซากให้กับคอมพิวเตอร์ผ่าน Machine Learning ได้เริ่มจากการสแกน บันทึก และจัดเก็บเอกสารกระดาษ เช่นใบแจ้งหนี้เพื่อจัดระเบียบและแก้ไขภาพนอกเหนือจากงานง่ายๆ เหล่านี้ เครื่องจักรเรียนรู้ด้วยตนเอง (Self-learning machines) ยังสามารถทำงานที่ซับซ้อนได้ ตัวอย่างเช่น การจดจำรูปแบบที่ผิดพลาดต่างๆ (error patterns) ได้ด้วย นี่เป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งในแอเรียต่างๆ เช่นอุตสาหกรรมการผลิต ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่ต้องพึ่งพาการผลิตอย่างต่อเนื่องและปราศจากข้อผิดพลาด แม้แต่ในเรื่องที่ผู้เชี่ยวชาญก็ไม่อาจมั่นใจได้ว่าเกิดข้อผิดพลาดในสายการผลิตได้อย่างไร แต่ Machine Learning เสนอความเป็นไปได้ในการระบุข้อผิดพลาดได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายตอนนี้โปรแกรมการเรียนรู้ด้วยตนเองยังถูกใช้ทางด้านการแพทย์ ในอนาคตหลังจากที่ “บริโภค” ข้อมูลจำนวนมหาศาล (สิ่งตีพิมพ์ทางการแพทย์ ผลการศึกษา ฯลฯ ) apps (ของคนไข้) จะสามารถเตือนคนไข้ในกรณีที่แพทย์ต้องการสั่งยาที่คนไข้ไม่อาจรับได้หรือตัวยาที่คนไข้เกิดอาการแพ้ “ความรู้” ในข้อนี้ยังหมายถึงการที่แอปสามารถเสนอทางเลือกอื่น ๆ ได้โดยคำนึงถึงข้อจำกัดทางพันธุกรรมของผู้ป่วยนั้นๆ ด้วย

ข้อเสียของ machine learning

ที่ใช้เทคนิค supervised learning แบบดั้งเดิม ก็คือว่า เราต้อง มี dataset ที่ labeled หรือกำหนด ค่าของตัวแปร y มาให้ ซึ่งถ้าเป็นงานที่ต้องใช้ unstructured data การ label จะเป็นงานที่ยุ่งยาก และเสียเวลามาก และในกรณีนี้ ส่วนใหญ่ เรามักจะมี data กลุ่มตัวอย่างที่ไม่เพียงพอ


อาชีพ machine learning

Machine Learning Engineer เป็นงานที่ต้องมีพื้นฐาน Software Engineer ที่แข็งแกร่งมากในระดับนึง และยังต้องมีความรู้ด้าน Machine Learning ด้วย เพื่อให้เราสามารถคุยศัพท์ Technical กับทีม AI Research ได้สายงาน Machine Learning Engineer เหมาะกับคนที่จบด้าน Software Engineer มา หรือใครเป็น Software Engineer อยู่ แล้วสนใจศึกษาด้าน Machine Learning เพิ่มขึ้นก็เหมาะครับ ที่สำคัญคือทักษะการเขียนโปรแกรม, Algorithms & Data Structure


สู่จุดเปลี่ยนของวงการ AI และ Machine Learning ก้าวผ่านการวิจัยสู่การใช้งานจริง

อ้างอิงจาก IDC 40% ของโครงการด้านการทำ Digital Transformation จะใช้บริการ AI และภายในปี 2021 75% ของ Application ภายในองค์กรจะใช้ AI ข้อมูลเหล่านี้น่าสนใจเพราะว่าในอีกไม่นาน AI จะเปลี่ยนวิธีการที่เราโต้ตอบกับ Application หรือแม้แต่อุปกรณ์จากหลากหลายบริษัทก็ตาม เริ่มต้นจากการแนะนำผลิตภัณฑ์, การสร้างศูนย์บริการลูกค้า ไปจนถึงรถยนต์ไร้คนขับ ทั้งหมดนี้จะถูกทำให้เป็นอัตโนมัติด้วย AI และ Machine Learning ทั้งสิ้น

Machine Learning ถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 50 ปีแล้ว แต่ศาสตร์ทางด้านนี้เพิ่งจะเกิดการเปลี่ยนแปลงเร็วๆ นี้เนื่องจากการใช้ Cloud Computing กันอย่างแพร่หลาย ซึ่งทำให้ AI และ Machine Learning กลายเป็นเทคโนโลยีที่ถูกเข้าถึงได้จากทุกธุรกิจ ภาพนี้เป็นภาพที่เราไม่สามารถเห็นได้ใน 10 ปีที่แล้ว และตอนนี้เราก็กำลังอยู่ในจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ที่ซึ่ง Machine Learning จะถูกใช้งานจริงได้มากยิ่งขึ้น ธุรกิจต่างล้วนมีส่วนร่วมในแนวโน้มนี้ด้วยสาเหตุที่ไม่ใช่เพียงแค่ว่าแนวโน้มนี้กำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก แต่เป็นเพราะผลกระทบที่จะมีความสำคัญอย่างแท้จริงต่อธุรกิจ ซึ่งเกิดขึ้นได้เนื่องจาก Cloud Computing

อย่างไรก็ดี ถึงแม้จะมีข่าวที่หลากหลายเกี่ยวกับผลลัพธ์ของการนำ Machine Learning ไปใช้งาน และการนำ Machine Learning ไปใช้ปรับปรุงธุรกิจ ไม่ว่าจะสำหรับกระบวนการภายในธุรกิจหรือการโต้ตอบกับลูกค้าก็ตาม แต่ความท้าทายที่ธุรกิจยังคงต้องเผชิญก็คือทำให้ Machine Learning สามารถนำไปใช้งานได้จริง และการนำ Cloud Computing ไปช่วยให้ธุรกิจทุกขนาดสามารถใช้งาน Machine Learning ให้ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย หากอ้างอิงจากงานวิจัยของ Deloitte จะพบว่าความท้าทายที่ใหญ่ที่สุด 3 ประการของ Machine Learning นั้นได้แก่ 1) การติดตั้งใช้งาน 2) การผสานระบบ และ 3) ข้อมูล โดยมีองค์กรกว่า 39% ที่ต้องการใช้บริการ Cloud ในการสร้างเทคโนโลยีทางด้าน Machine Learn-ing โจทย์ที่น่าสนใจก็คือ ภายในระบบ Cloud นั้นมีบริการ AI และ Machine Learning ใดให้ใช้งานบ้าง? และบริการใดจะเหมาะสมกับการนำไปใช้งานในรูปแบบไหน?

5 สิ่งที่ทุกคนควรรู้เกี่ยวกับ Machine Learning  
 
เมื่อไม่นานมานี้ คอมพิวเตอร์จำเป็นต้องใช้ชุดคำสั่งที่ซับซ้อนและแม่นยำสูงขึ้น เพื่อให้แม้แต่งานง่าย ๆ สัมฤทธิ์ผล
ภาษาคอมพิวเตอร์มีการพัฒนาตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา ขั้นตอนหนึ่งที่สำคัญยิ่งคือมุ่งสู่การขจัดการโปรแกรมที่ซับซ้อน กล่าวคือ การทำให้คอมพิวเตอร์สามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ เรียกว่า Machine Learning
 
เนื่องจาก Machine Learning ดังกล่าว เป็นวิวัฒนาการก้าวกระโดดทางเทคโนโลยีที่รวดเร็ว มีศักยภาพที่แท้จริงเพราะฉะนั้นอาจส่งผลกระทบในกับผู้คนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นในเชิงธุรกิจหรือด้านอื่นๆ ในอนาคตอันใกล้ ด้วยเหตุนี้เองเราจึงคิดว่าสิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่น่าสนใจต่อการพัฒนาก้าวกระโดดนี้           
 
1. Machine Learning คืออะไร?
แท้จริงแล้ว Machine Learning เป็นการประยุกต์ใช้สถิติขั้นสูงเพื่อเรียนรู้ให้สามารถระบุรูปแบบข้อมูลและคาดการณ์จากรูปแบบเหล่านั้นได้
 
Machine learning เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1950 เมื่อนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์คิดหาวิธีสอนคอมพิวเตอร์ให้เล่นหมากฮอส จากนั้น เมื่อวิวัฒนาการทางเทคโนโลยี ทำให้ระบบการคำนวณค่าต่างๆของคอมพิวเตอร์เพิ่มขึ้น ทำให้คอมพิวเตอร์สามารถเข้าใจและจดจำรูปแบบของค่าต่างๆที่ซับซ้อนได้ แล้วจึงประยุกต์ไปสู่การคาดการณ์สถานการณ์ณ์รวมไปถึงการแก้ปัญหาด้วยตัวเอง
 
อัลกอริทึมของ Machine Learning คือ การให้ ‘ชุดการสอน (teaching set)’ ของข้อมูล แล้วให้ใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อตอบคำถาม ตัวอย่างเช่น คุณอาจเตรียมชุดการสอนเกี่ยวกับรูปภาพ ภาพบางส่วนคือ “นี่คือแมว” ภาพบางส่วน “นี่ไม่ใช่แมว” จากนั้นคุณสามารถแสดงภาพชุดใหม่ ๆ สอบถามคอมพิวเตอร์ แล้วคอมพิวเตอร์จะเริ่มแยกแยะได้ว่ารูปใดเป็นรูปแมว
 
2. อะไรทำให้ Machine learning น่าตื่นเต้น?
ในยุคปัจจุบันนี้คอมพิวเตอร์สามารถทำหลายสิ่งที่ครั้งหนึ่งมนุษย์เคยคิดว่าจะมีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่สามารถทำสิ่งเหล่านั้นได้  ในขณะที่เทคโนโลยียังคงไม่สมบูรณ์ในหลายๆกรณี ในความเป็นจริงแล้วเทคโนโลยีนี้มีคอนเซ็ปในการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องและไม่สิ้นสุด โดยทางทฤษฎี เทคโนโลยีนี้ไม่มีขีดจำกัดเพดานด้านประสิทธิภาพโดยจะพัฒนาและมีประสิทธิภาพสูงขึ้นเสมอ
 
ขณะนี้ คอมพิวเตอร์สามารถ “ดู” รูปภาพและจำแนกเข้าสู้หมวดหมู่ต่างๆเองได้แล้ว เช่นเดียวกับรูปภาพแมวที่ยกตัวอย่างไปก่อนหน้านี้ คอมพิวเตอร์เหล่านี้สามารถ “อ่าน” ได้ทั้งข้อความ (text) และตัวเลข (number) ในรูปภาพ ตลอดจนสามารถระบุตัวบุคคลและสถานที่ได้ คอมพิวเตอร์ไม่เพียงแต่อ่านข้อความได้เท่านั้นแต่สามารถเข้าใจบริบท (context) ได้อีกด้วย รวมถึงทั้งความรู้สึกที่เป็นด้านบวกและด้านลบของแต่ละข้อความนั้นๆ
 
ยิ่งไปกว่านั้น คอมพิวเตอร์ยังสามารถฟังเสียงเรา เข้าใจเรา และโต้ตอบกับเรา ผู้ช่วยเสมือน (Virtual Assistant) ที่อยู่กับคุณตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็น  Siri, Cortana หรือ Google Now นั้น ปัจจุบันถือว่าเป็นการก้าวกระโดดที่สำคัญในด้านความสามารถของคอมพิวเตอร์เพื่อทำความเข้าใจคำพูดและอริยบทของมนุษย์ตามธรรมชาติ และมีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องอยู่ตลอดเวลา
 
คอมพิวเตอร์ยังสามารถเขียนได้อีกด้วย อัลกอริทึมของ Machine Learning ที่กำลังถูกนำมาใช้เพื่อเขียนเนื้อหาข่าวพื้นฐานในวงการที่ต้องใช้ข้อมูลมหาศาล อย่างเช่น การรายงานทางการเงินและแม้กระทั่งการกีฬา สิ่งเหล่านี้เกี่ยวข้องกับการป้อนข้อมูลและการจัดหมวดหมู่ข้อมูลทุกประเภท ซึ่งในอดีตจำเป็นต้องใช้คนทำ หากคอมพิวเตอร์สามารถจดจำบางสิ่งบางอย่างได้ เช่น รูปภาพ เอกสารไฟล์ เป็นต้น และอธิบายได้อย่างถูกต้องแม่นยำ เราอาจใช้ประโยชน์ได้หลาย ๆ อย่างจากระบบอัตโนมัติเหล่านี้



3. Machine Learning ในปัจจุบันถูกใช้อย่างไรบ้าง?
การศึกษางานชิ้นหนึ่ง ด้วยการวินิจฉัยโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วย (computer assisted diagnosis, CAD) เพื่อตรวจสอบสแกนหามะเร็งเต้านมของผู้หญิงในระยะแรกและมะเร็งเต้านมในระยะต่อมา และคอมพิวเตอร์ตรวจพบ 52% ของมะเร็ง ซึ่งเป็นจำนวนที่เท่ากับปีก่อนที่ผู้หญิงคนนี้จะถูกวินัจฉัยว่าเป็นมะเร็ง นอกจากนี้ Machine Learning สามารถใช้ทำความเข้าใจถึงปัจจัยเสี่ยงของโรคในประชากรกลุ่มใหญ่ๆได้   บริษัท Medecision พัฒนาอัลกอริทึมที่สามารถระบุตัวแปร 8 ปัจจัย เพื่อคาดการณ์แนวทางการรักษาที่สามารถหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในการเกิดโรคได้ในผู้ป่วยโรคเบาหวาน
 
คุณอาจเคยช็อปปิ้งออนไลน์และมีโอกาสเข้าชมร้านค้าออนไลน์และมองหาสินค้าสักชิ้นหนึ่ง แต่ไม่ได้ซื้อเลย แล้วคุณกลับพบเห็นโฆษณาดิจิทัลบนเว็บสำหรับสินค้านั้นชิ้นเดียวกับที่คุณเคยเข้าไปดูก่อนหน้านี้ การตลาด ลักษณะนี้เป็นเพียงสิ่งเล็กๆของความสามารถในการทำการตลาดออนไลน์ในสมัยนี้ได้  บริษัทผู้ทำการตลาดออนไลน์สามารถกำหนดอีเมล์ส่วนตัวและลูกค้า เพื่อส่งอีเมล์หรือคูปองให้โดยตรง ซึ่งเสนอ “สินค้าแนะนำ” ให้ลูกค้าเห็น และทั้งหมดนั้นออกแบบมาเพื่อนำเสนอขายสินค้าต่อผู้บริโภคที่น่าเชื่อถือได้นั่นเอง
 
การประมวลภาษาธรรมชาติ (Natural Language Processing, NLP) กำลังถูกนำมาใช้ในทุกประเภทของการใช้งานที่น่าตื่นเต้นข้ามวงการ  อัลกอริทึมของ Machine Learning ด้วยการใช้์NPL สามามารถทำหน้าที่บริการลูกค้าและนำเสนอข้อมูลที่ลูกค้าต้องการได้อย่างรวดเร็วทันใจ และยังถูกนำมาใช้แปลภาษากฎหมายที่กำกวมในสัญญาให้เป็นภาษาที่เข้าใจง่ายๆ และช่วยให้ทนายความจำแนกข้อมูลจำนวนมากเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับแต่ละกรณี
 
เมื่อเร็วๆนี้บริษัท IBM ได้ทำการสำรวจผู้บริหารระดับสูงด้านรถยนต์ และจำนวน 74% คาดการณ์ว่าพวกเราจะได้เห็นรถสมาร์ทคาร์ (Smart Car) แล่นบนถนนในปี 2025 รถสมาร์ทคาร์ไม่เพียงแต่ผสานเข้ากับ Internet of things (IoT) แต่ยังเรียนรู้เกี่ยวกับเจ้าของรถและสภาพแวดล้อม อาจปรับการตั้งค่าภายใน เช่น อุณหภูมิ เสียง ตำแหน่งที่นั่ง เป็นต้น ปรับตัวเองโดยอัตโนมัติบนพื้นฐานของคนขับ รายงาน และแม้กระทั่งแก้ไขปัญหาเอง ขับเองได้ และแนะนำสภาพการจราจรและถนนตามเวลาจริง ณ เวลานั้น ได้
 
4. สิ่งที่ Machine Learning ทำได้ในอนาคตอันใกล้?
เมื่อพูดถึงความเป็นไปได้ที่เทคโนโลยีนี้จะสามารถทำได้นั้นแทบจะเรียกได้ว่าไม่มีขีดจำกัดเลยทีเดียว
ความเป็นไปได้ที่น่าตื่นเต้น ได้แก่ :
•                การดูแลสุขภาพส่วนบุคคล (Personalized healthcare) ที่วิเคราะห์จากลักษณะทางพันธุรกรรม และพฤติกรรมในการดำเนินชีวิต หลังจากนั้นจะสร้างแผนการดูแลสุขภาพโดยเฉพาะ และแผนการรักษาทางการแพทย์ของคุณ
•                โปรแกรมรักษาความปลอดภัยข้อมูล (Data security program) ที่สามารถตรวจจับมัลแวร์ ไวรัส และการโจมตี ด้วยระดับความแม่นยำสูง
•                คอมพิวเตอร์ช่วยรักษาความปลอดภัย (Computer assisted security) ในสถานที่ต่าง ๆ เช่น สนามบิน และสนามกีฬา ที่สามารถคาดการณ์ได้ว่าใครอาจจะเป็นภัยคุกคาม และมองเห็นสิ่งที่มนุษย์อาจมองผิดพลาดได้
•                รถยนต์ที่ขับด้วยตนเอง (Self-driving car) ซึ่งสามารถนำทางด้วยตนเอง และลดปัญหาการจราจรและอุบัติเหตุได้
•                การตรวจสอบการทุจริตขั้นสูง (Advanced fraud detection) ในด้านการเงินและการประกันภัยเพื่อช่วยเราประหยัดงบประมาณ
•                แม้แต่ “เครื่องแปลภาษาครอบจักรวาล (Universal Translator)” ที่จะช่วยให้คุณสามารถพูดผ่านโทรศัพท์หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ของคุณ และแปลภาษาได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว
 
 
5. ทำไมพวกเราต้องสนใจเกี่ยวกับ Machine Learning?
สำหรับหลายคนแล้ว ความล้ำหน้าเหล่านี้จะเกิดขึ้นในฐานะเทคโนโลยีใหม่ ๆ แล้วพวกเขาจะไม่สนใจว่ามันทำงานอย่างไรหรือเบื้องหลังมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง
 
แต่เราทุกคนควรใส่ใจ เนื่องจาก Machine Learning นำพาสิ่งดี ๆ เข้ามา และมันอาจเปลี่ยนรูปแบบแรงงานของพวกเราได้อีกด้วย
 
การประยุกต์ใช้ Machine Learning กับข้อมูลที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ที่ผลิตขึ้นโดยทุกคนบนโลกนี้จะเปลี่ยนโฉมทุกอย่างที่เกี่ยข้องกับงานของเรา ใช่แล้ว เทคโนโลยีใหม่เหล่านี้สำหรับหลาย ๆ คนแล้วจะทำให้งานง่ายขึ้น แต่ก็อาจทำให้หลายงานเหล่านั้นล้าสมัย อัลกอริทึมสามารถตอบอีเมล์ของเรา แปลความหมายรูปภาพทางการแพทย์ หาวิธีให้เราชนะทางกฎหมาย วิเคราะห์ข้อมูลของเรา และอื่น ๆ อีกมากมาย
 
การเรียนรู็ของ Machine Learning ใช้อัลกอริทึมที่เน้นการเรียนรู้จากตัวอย่างที่ผ่านมา ดังนั้น โปรแกรมเมอร์จะเขียนบรรทัดคำสั่งเพื่อดำเนินการทุกอย่าง ความสามารถในการเรียนรู้นี้ควบคู่ไปกับความก้าวหน้าทางด้านหุ่นยนต์และเทคโนโลยีมือถือ หมายถึงคอมพิวเตอร์สามารถช่วยให้มนุษย์ดำเนินงานที่ซับซ้อนได้รวดเร็วและดีขึ้นกว่าที่เคย
 
แต่อะไรจะเกิดขึ้นกับมนุษย์ เมื่อ Machine Learning แซงหน้าไปไกล?
 
The World Economic Forum สันนิษฐานว่า เราจะสูญเสียงาน 5 ล้านตำแหน่ง ให้กับคอมพิวเตอร์และหุ่นยนต์ภายในอีก 5 ปีข้างหน้า
 
นั่นหมายความว่าจะไม่มีอะไรเหลือให้คุณทำงาน ตั้งแต่ทนายความ ผู้เชี่ยวชาญการวินิจฉัยโรค ตัวแทนบริการลูกค้า จนไปถึง พนักงานขับรถบรรทุก คุณจำเป็นต้องให้ความสนใจกับ Machine Learning ที่อาจส่งผลต่อ ธุรกิจ วงการ และงานของคุณ วิธีที่ดีที่สุดเพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะไม่แปลกใจ เมื่อคอมพิวเตอร์เริ่มทำงานเหล่านี้ คือ คุณจะต้องตั้งมั่นและเตรียมเชิงรุกตั้งแต่เดี๋ยวนี้

อาชีพที่เกี่ยวข้องกับ Machine learning 

1.ขายของออนไลน์

2.สอนพิเศษออนไลน์

3.หมอ,พยาบาล ที่ใช้ในการตรวจหามะเร็ง

4.ทหาร ที่ใช้ในการหาวัตถุระเบิด

วันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2563

AI (artificial intelligence)


    AI ย่อมาจาก Artificial Intelligence แปลว่า ปัญญาประดิษฐ์ หมายถึงแขนงการศึกษาทางวิทยาการคอมพิวเตอร์แขนงหนึ่งที่พยายามจะทำให้คอมพิวเตอร์สามารถคิดหาเหตุผลได้ เรียนรู้ได้ ทำงานได้เหมือนสมองมนุษย์

ตัวอย่างงาน AI ในแต่ละด้าน ดังนี้

  1.  ด้านการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล  เช่น  Information Security System 
  2. ด้านระบบความปลอดภัย  เช่น  อุปกรณ์ตรวจจับสิ่งแปลกปลอมหรือบุคคลที่ทางการต้องการตัว
  3. ด้านการเงินและการลงทุน  เช่น  ระบบวิเคราะห์ประมวลผลของการเล่นหุ้น
  4. ด้านสุขภาพ  เช่น  เครื่องสแกนร่างกายหาโรค
  5. ด้านการตลาดเฉพาะตัวบุคคล  เช่น  ระบบเก็บข้อมูลของผู้บริโภค
  6. ด้านการตรวจสอบที่ผิดกฎหมาย  เช่น  ระบบการวิเคราะห์ ตรวจสอบรายละเอียดของสิ่งผิดกฎหมาย ผู้ซื้อและผู้ขาย
  7. ด้านการแนะนำมอบของขวัญ  เช่น  ระบบการจดจำข้อมูลและแนะนำการให้ของขวัญจากรายละเอียดของผู้รับ
  8. ด้านการค้นหาในระบบออนไลน์  เช่น  Google และ ระบบ AI ที่วิเคราะห์พฤติกรรมการค้นหา รวมไปถึงวิเคราะห์คีย์เวิร์ดที่ค้นหา
  9. ด้านระบบประมวลภาษาธรรมชาติ  เช่น  ระบบการตอบสนองคำสั่งของคน โดยมี Machine learning และ Deep learning เป็นระบบช่วยการทำงาน
  10. ด้านรถยนต์อัจฉริยะ  เช่น GPS และ Automatic driving system


คลิปวิดีโอนี้

    เกี่ยวกับระบบ AI ป้อนความรู้จากมนุษย์สู่จักกล หมายถึงความฉลาดเทียมที่สร้างขึ้นให้กับสิ่งที่ไม่มีชีวิต ปัญญาประดิษฐ์เป็นสาขาหนึ่งในด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ และวิศวกรรมเป็นหลัก แต่ยังรวมถึงศาสตร์ในด้านอื่น ๆ อย่างจิตวิทยา ปรัชญา หรือชีววิทยา ซึ่งสาขาปัญญาประดิษฐ์เป็นการเรียนรู้

กฎหมายเกี่ยวกับAI 
    เช่น พรบ.เกี่ยวกับการกระทำผิดผ่านอินเตอร์เน็ต

ประโยชน์จากการใช้งานคือ 
    ทำให้ไม่มีใครสามารถกล้ากระทำความผิด การใช้ชีวิตมีความสะดวกสบายมากขึ้น

ผลกระทบ  
    ด้านบวก    :    ทำให้ไม่มีอาชญากรรม สะดวกสบายในการใช้ชีวิต
    ด้านลบ      :    ทำให้คนบางกลุ่มไม่มีรายได้

อาชีพที่เกี่ยวข้อง
    ตำรวจไซเบอร์/นักรบไซเบอร์  วิศวกรพัฒนายานยนต์  นักเทคโนโลยีชีวภาพ  นักวิจัยอาหาร  
นักวิจัย Big Data ผู้เชี่ยวชาญด้านฮาร์ดแวร์  วิศวกร ML : Machine Learning Engineers

อนาคตที่คาดไว้
    โลกอินเตอร์อาจจะเปิดกว้าง ระบบ AI จะเข้ามาแทนที่คนบางกลุ่ม รถยนตร์อาจจะไม่ได้แค่วิ่งบนพื้นถนนอีกต่อไป จะมีรถไฟฟ้าแบบ Hyperloop

วันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2563

ีรีวิวข้าวหน้าแซลม่อน ที่ฟิวเจอร์รังสิต

ข้าวหน้าแซลม่อนพิกัด ฟิวเจอร์รังสิต เป็นร้านที่อร่อยมากในอาหารญี่ปุ่นทั้งหมด แถมยังราคาถูกและทานง่ายอีกด้วย